อัตราส่วนของทุนสำรองล่าสุดของ Bitget
อัตราส่วนของทุนสำรอง = สินทรัพย์ในแพลตฟอร์ม / สินทรัพย์ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม ทั้งนี้ อัตราส่วนของทุนสำรองที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 100% หมายความว่าแพลตฟอร์มมีเงินทุนเพียงพอ
อัตราส่วนของทุนสำรองล่าสุดของ Bitget
อัตราส่วนของทุนสำรอง = สินทรัพย์ในแพลตฟอร์ม / สินทรัพย์ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม ทั้งนี้ อัตราส่วนของทุนสำรองที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 100% หมายความว่าแพลตฟอร์มมีเงินทุนเพียงพอ
อัตราส่วนของทุนสำรองล่าสุดของ Bitget
อัตราส่วนของทุนสำรอง = สินทรัพย์ในแพลตฟอร์ม / สินทรัพย์ของผู้ใช้แพลตฟอร์ม ทั้งนี้ อัตราส่วนของทุนสำรองที่สูงกว่าหรือเท่ากับ 100% หมายความว่าแพลตฟอร์มมีเงินทุนเพียงพอ
Proof of Reserves คืออะไร
'Proof of Reserves' หมายถึงขั้นตอนการตรวจสอบที่สามารถตรวจสอบได้ผ่านหลักฐานทางวิทยาการเข้ารหัส (Cryptographic Proof), การตรวจสอบความเป็นเจ้าของ Wallet สาธารณะ และการตรวจสอบซ้ำๆ เป็นประจำเพื่อรับรองยอดถือครองของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน โดยผู้ให้บริการดูแลรักษาสินทรัพย์จะแสดงความโปร่งใสของระบบและแสดงหลักฐานว่าทุนสำรอง On-Chain มีอยู่จริง อีกทั้งแสดงว่าจำนวนทั้งหมดของเหรียญซึ่งเป็นทุนสำรองที่แพลตฟอร์มถือครองไว้และสามารถใช้ได้ดังกล่าวมีมากกว่าหรือเท่ากับยอดถือครองเหรียญเหล่านั้นของผู้ใช้ทั้งหมดรวมกัน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ Bitget จึงทำการจัดเก็บ Hash ของสินทรัพย์ในบัญชีของผู้ใช้แต่ละรายไว้ใน Leaf Node บน Merkle Tree โดยผู้ใช้แต่ละรายสามารถไปยืนยันได้ว่าสินทรัพย์ของตนรวมอยู่ใน Merkle Tree แล้ว ด้วยการตรวจสอบจำนวนสินทรัพย์ทั้งหมดของผู้ใช้ที่จัดเก็บไว้ใน Leaf Node ของ Merkle Tree ดังกล่าว
หากจำนวนทั้งหมดที่ได้รับการยืนยันนั้นมากกว่าหรือเท่ากับ 100% แสดงว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวได้พิสูจน์แล้วว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้ยังมีครบสมบูรณ์
โค้ดโอเพนซอร์สทั้งหมดของ 100% Solvency Program ของแพลตฟอร์มได้รับการเผยแพร่ไปยัง GitHub แล้ว
พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองเลย


เรายึดมั่นในความโปร่งใสของระบบอย่างสูงสุดเสมอมา
หลักการของ Bitget มีไว้เพื่อให้ความสำคัญกับผู้ใช้ของเราเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยที่ตรวจสอบได้ของสินทรัพย์ของผู้ใช้ของเรา เราจะดำเนินการอย่างโปร่งใสกับสินทรัพย์ทั้งหมดของแพลตฟอร์มของเรา
1. เราบันทึกสแนปช็อตเป็นรายเดือนและเผยแพร่ข้อมูลสินทรัพย์ใน Wallet ทั้งหมดของแพลตฟอร์ม
2. เราบันทึกสแนปช็อตสินทรัพย์ของผู้ใช้แต่ละคนเป็นรายเดือน และเผยแพร่หลังจากทำการล้างข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมด
3. ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสินทรัพย์ของตนได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน
ทำไมการมีอัตราส่วนทุนสำรอง 100% จึงมีความสำคัญมาก
หากไม่สามารถตรวจสอบว่ามีทุนสำรองถึง 100 เปอร์เซ็นต์
อาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการนำสินทรัพย์ไปใช้ในทางมิชอบ

มีความทนทานต่อความเสี่ยงได้ต่ำเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด (Black Swan Event)

หากมีการถอนสินทรัพย์เป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดวิกฤติจากการแห่ถอนได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การญเสียสินทรัพย์ของผู้ใช้ได้

มีทุนสำรองอยู่ 100%
หมายความว่าแพลตฟอร์มนี้มีทุนสำรองอย่างเพียงพอ
เป็นการรับประกันได้ในทางปฏิบัติว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้จะปลอดภัย
แพลตฟอร์มนี้สามารถครอบคลุมการถอนของผู้ใช้ แม้ว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้จะถูกถอนออก 100% ก็ตาม

มีทุนสำรองอยู่ 100%
หมายความว่าแพลตฟอร์มนี้มีทุนสำรองอย่างเพียงพอ
เป็นการรับประกันได้ในทางปฏิบัติว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้จะปลอดภัย
แพลตฟอร์มนี้สามารถครอบคลุมการถอนของผู้ใช้ แม้ว่าสินทรัพย์ของผู้ใช้จะถูกถอนออก 100% ก็ตาม

หากไม่สามารถตรวจสอบว่ามีทุนสำรองถึง 100 เปอร์เซ็นต์
อาจเป็นสัญญาณที่ชัดเจนของการนำสินทรัพย์ไปใช้ในทางมิชอบ

มีความทนทานต่อความเสี่ยงได้ต่ำเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด (Black Swan Event)

หากมีการถอนสินทรัพย์เป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดวิกฤติจากการแห่ถอนได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การญเสียสินทรัพย์ของผู้ใช้ได้

หลักพื้นฐานของ Merkle Tree
Merkle Tree โดยหลักแล้วจะใช้เป็นวิธีที่จะตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแต่ละบัญชีจะแทนด้วย Acct Node ที่ด้านล่าง และระบบจะคำนวณยอดคงเหลือและชื่อบัญชีของแต่ละบัญชีหนึ่งครั้งด้วย การเข้ารหัส SHA256 ทั้งนี้ Hash Value ที่ได้รับสามารถใช้คำนวณได้อีกครั้งกับ Hash Value ที่อยู่ติดกัน จากนั้นจึงค่อยๆ ไล่ไปทีละเลเยอร์จนกว่าการคำนวณ Hash จะไปถึงราก (Root) ของ Merkle tree อนึ่ง เพื่อการยืนยันว่าทุนสำรองในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ผู้ใช้เพียงต้องทำตามขั้นตอนเพื่อทำการคำนวณ Hash ของบัญชีของตนเอง ค้นหาตำแหน่งในผังต้นไม้และ Node ที่อยู่ติดกัน จากนั้นคำนวณ Hash ไล่ขึ้นไปทีละ Layer จนถึงราก (Root) ของ Merkle Tree ที่ผู้ใช้ใช้คำนวณ ซึ่งหากสอดคล้องกับการประกาศอย่างเป็นทางการ ก็แสดงว่าทุกอย่างอยู่ครบถ้วน
ตามที่แสดงในรูปด้านล่าง :
